aaa
 
หน้าแรก | ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมงานบุญ | ติดต่อกับผู้ผลิต | 
ค้นหาผลิตภัณฑ์  
 
 
 
 
 
ข้าวกล้องเพาะงอกเบญจกระยาทิพย์
ที่มาของกาแฟ
กระดูกอ่อนฉลามและคอลลาเจน
ที่มาของรังนก
INS 401 คืออะไร
คารายากัม คืออะไร
งานวิจัยซุปไก่สกัด
กลูตาไธโอนคืออะไร
ความเป็นมาของกำลังช้างสาร
สรรพคุณของโชวู
Coenzyme Q10 คืออะไร
โสมกับสุขภาพ
ประโยชน์ของตังถั่งเช่า
สรรพคุณของจับเลี้ยง
ความเป็นมาของทุเรียน
ความเป็นมาของเห็ดหลินจือ
ความเป็นมาของเห็ดไมตาเกะ
ความเป็นมาของตังกุย
ประโยชน์ของเห็ดจีซง
ถาม - ตอบ เรื่องเอนไซม์
ประวัติของโรคเบาหวาน
ความเป็นมาของน้ำมันมะพร้าว
ประโยชน์ของเขากวางอ่อน
ประโยชน์ของผลส้มแขก
ประโยชน์ของจันทน์เทศ
ประโยชน์ของชาใบหม่อน
คุณค่าของมะรุม
ความเป็นมาของผลหม่อน
ประโยชน์ของเมล็ดองุ่นแดง
สรรพคุณของดอกคำฝอย
สรรพคุณของไข่มุก
สรรพคุณของโกฐหัวบัว
สรรพคุณของโกฐเขมา
สรรพคุณของอึ้งคี้หรือปักคี้
สรรพคุณของกำลังวัวเถลิง
สรรพคุณของกำลังหนุมาน
สรรพคุณของกระชายดำ
สรรพคุณของแปะก๊วย
ประโยชน์ของม้าน้ำ
ความเป็นมาของผักชีลาว
สรรพคุณของดอกอัญชัน
สรรพคุณของดอกทองพันชั่ง
สรรพคุณของว่านหางจระเข้
สรรพคุณของใบบัวบก
สรรพคุณของนมผึ้ง
สรรพคุณของต้นไหลเผือก
สรรพคุณของพลูคาว
ความเป็นมาขององุ่น
สรรพคุณของมังคุด
สรรพคุณของหัวไชเท้า
คุณสมบัติของต้น Wicth Hazal
 
 
 
 
 
 
เครื่องดื่มชนิดผงพร้อมชง
และเครื่องดื่มชนิดน้ำพร้อมดื่ม
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งชนิดน้ำ
พร้อมดื่ม และชนิดแคปซูล
บรรจุแผง / ขวด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
กาแฟสำเร็จรูปผสมข้าวกล้องเพาะงอก พลัส คอลลาเจน ตรา "K.kof"
น้ำหนักสุทธิ / กล่อง : 160 กรัม (16 กรัม X 10 ซอง)
กาแฟรสเข้มข้น ปราศจากน้ำตาล
เลข ทะเบียน อย.
 
   
กาแฟสำเร็จรูปผสมข้าวกล้องเพาะงอก พลัส คอลลาเจน
Sugar Free ตรา "K.KOF" บรรจุ 10 ซอง ๆ ละ 16 กรัม
 
ข้าวกล้องงอกคืออะไร
ข้าวกล้องงอก (Germinated Brown Rice หรือ "GABA-rice")
ถือเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้าวกล้องงอก
(Germinated Brown Rice) ซึ่งโดยปกติแล้วในตัวข้าวเอง ประกอบด้วยสารอาหารจำนวนมาก
เช่น ใยอาหาร กรดไฟติก (Phytic acid) วิตามินซี วิตามินอี และสาร GABA
(Gamma Aminobutyric acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน และช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว เป็นต้น
กาบา ไรส์ , Gaba rice , 5 Grains Oraganic , product of thailand
ประโยชน์ของสารในข้าวกล้องงอก
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟิโนลิค (phenolic compounds) ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า ชะลอความแก่
2. สารออริซานอล (orizanal) ช่วยควบคุมระดับอาการผิดปกติของวัยทอง
3. สารกาบา (GABA) ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ (ความจำเสื่อม) ช่วยผ่อนคลาย
ทำให้จิตใจสงบ หลับสบาย ลดความเครียดวิตกกังวล ลดความดันโลหิต
4. กากใยอาหาร (food fiber) ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันมะเร็งลำไส้ และลดอาการท้องผูก
5. วิตามินอี (vitamin E) ลดการเหี่ยวย่นของผิว >>> อ่านต่อที่นี้
ข้าวกล้องงอกพร้อมชงดื่ม , puri instant
คัดลอกบางส่วนจาก : สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว
 

 
กรดไฟติก
กรดไฟติก (Phytic acid) หรือ ไฟเตต (อังกฤษ: phytate) พบมากในพืชตระกูลถั่วโดยเฉพาะถั่วเมล็ดแห้ง
เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วเขียว และงา มีฤทธิ์ในการยั้บยั้งการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด
ได้แก่ ตะกั่ว ธาตุเหล็ก สังกะสี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งมีอยู่ในอาหารที่เรารับประทานเข้าไป
หากร่างกายได้รับเข้าไปในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นได้ตามปกติ
ไฟเตตสามารถสลายไปได้โดยการใช้ความร้อน ดังนั้น ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน
 
กรดไฟติกคืออะไร
กรดไฟติกเป็นสารที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส แร่ธาตุนี้จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์พลังงานสร้างผนังเซลล์
มันอยู่ในกลุ่มต่อต้านสารอาหาร นั่นหมายความว่ากรดมีคุณสมบัติในการจับกับสารอาหารในทางเดินอาหาร
ดูดซึมในปริมาณที่น้อยลงซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
 
ประโยชน์ต่อสุขภาพของกรดไฟติก
แม้ว่าผู้คนจะพูดถึงอันตรายของไฟตินต่อร่างกาย แต่ก็มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์เช่นกัน
เมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะอาหารที่มีสารนี้จะมีประโยชน์ดังต่อไปนี้:
- ลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอก
- มีส่วนช่วยในการทำงานปกติของระบบต่อมไร้ท่อ
- ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยการลดระดับคอเลสเตอรอล
   และไลโปโปรตีนที่เป็นอันตรายในเลือด
- สนับสนุนการทำงานของเอนไซม์บางชนิดเช่นวิตามิน
- ลดการทำงานของอนุมูลอิสระแสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
 
จากคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของไฟตินนักวิจัยยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นกลาง
แนะนำให้ใช้การทำให้เป็นกลางของกรดหากบุคคลรับประทานอาหารที่มีกรดไฟติกในปริมาณมาก
 
คัดลอกข้อมูลบางส่วนจาก :
- https://th.wikipedia.org/wiki/ไฟเตต
- https://lifestyle.cosmetius.com/th/zdorove/vred-fitinovoy-kisloty-gde-ona-soderzhitsya
   -i-kak-ee-neytralizovat.html
 

 
ประโยชน์ของกาแฟ
ประโยชน์ของกาแฟมีมากมายหลายอย่างด้วยกัน ทั้งช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยบำบัดโรคบางชนิด
นอกจากนี้กาแฟยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวระงับความเจ็บปวด โดยเฉพาะประโยชน์ของกาแฟ
ในการรักษาไมเกรนและกาแฟยังสามารถกำจัดโรคหืดในผู้ป่วยบางคนได้ด้วย
คุณประโยชน์บางอย่างของกาแฟอาจส่งผลต่อเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น กาแฟได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดการฆ่าตัวตายในผู้หญิง
และกาแฟยังช่วยป้องกันนิ่วและโรคถุงน้ำดีในผู้ชาย นอกจากนี้กาแฟยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน
ในทั้งสองเพศ และลดเพียงประมาณ 30% ในผู้หญิง แต่ลดมากกว่า 50% ในผู้ชาย
กาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งและกาแฟยังป้องกันมะเร็ง
ในปลายลำไส้ใหญ่และกระเพาะปัสสาวะ กาแฟสามารถความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในเซลล์ตับ
ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของมะเร็งตับ (Inoue, 2005) และสุดท้ายกาแฟช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ
ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นเพราะมันกำจัดไขมันในเส้นเลือด หรือเพราะว่ามันเป็นมีผลกระตุ้นกันแน่
ยังมีข้อดีอื่น ๆ ของกาแฟที่เป็นเหตุผลให้คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกาแฟ เช่น กาแฟช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น
(short term recall) และกาแฟช่วยเพิ่มไอคิว นอกจากนี้กาแฟยังช่วยเปลี่ยนระบบเมตาบอลิซึม
ให้มีสัดส่วนของลิพิดต่อคาร์โบไฮเดรตที่ถูกเผาผลาญสูงขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการล้ากล้ามเนื้อของนักกีฬา
 
ค้นหาข้อมูลจาก : http://www.google.co.th ค้นหา "ประโยชน์ของกาแฟ" >>> อ่านต่อที่นี้
 

 
 
ฟิช ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน ( Fish Hydrolyzed Collagen )
คือ คอลลาเจน ที่ผ่านกระบวนการผลิตจากปลา ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแยกโมเลกุลที่สมบูรณ์แบบ
ให้มีขนาดเล็กจนเป็นกลายเป็นเหล่าอะมิโน จึงทำให้ Fish Hydrolized Collagen
มีประโยชน์ในการซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้มากกว่า คอลลาเจนมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
เพราะ 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย คือ คอลลาเจน และน้ำหนักของผิวหนังมากกว่า 75% คือ น้ำหนักของคอลลาเจน
คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบอื่นๆ อีกของร่างกาย เช่น กระดูกอ่อน ตามข้อต่อต่างๆ
ซึ่งแต่ละส่วนของร่างกายจะมีคอลลาเจน แตกต่างชนิดกันไปตั้งแต่ Type I Collagen
ไปจนถึง Type XII Collagen โดยที่ Type I Collagen จะมีบทบาทสำคัญมากที่สุดในร่างกาย
โดยจะพบ Type I Collagen ในเรื่องที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมร่างกายต่างๆ
เช่น การรักษาแผลเป็นของร่างกาย ซึ่ง Fish Hydrolized Collagen นี้
มีส่วนประกอบของ Type I Collagen ที่จะช่วยซ่อมแซมผิวหนัง ข้อต่อ ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
 
นอกจากนี้ Fish Hydrolized Collagen ยังประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายต่างๆ อีกมากมาย
การรับประทาน Fish Hydrolized Collagen เป็นประจำยังช่วยป้องกันการขาดกรดอะมิโนที่จำเป็นเหล่านี้
แต่สิ่งที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่งของ Fish Hydrolized Collagen คือ เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้ว
จะเปลี่ยนคุณสมบัติของตัวเองได้อีกให้กลายเป็นกรดอะมิโนที่ชื่อว่า CARNITINE
และ CARNITINE นี้เอง มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน ดังนั้นหากรับประทาน Fish Hydrolized Collagen
เป็นประจำ ก็จะช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายด้วย
 
ดังนั้นการรับประทาน Fish Hydrolized Collagen เป็นประจำ ริ้วรอยต่างๆ ของผิว
เช่น ริ้วรอยรอบดวงตาริ้วรอยข้างแก้ม รอยแผลเป็น รอยหลุมสิว รูขุมขนกว้าง
จะค่อยๆ ถูกซ่อมแซมขึ้น ผิวหนังจะนุ่มชุ่มชื่นเต่งตึง กระดูกข้อต่อ ผมแข็งแรงหลุดร่วงน้อยลง
 
คัดลอกข้อมูลบางส่วนจาก :
http://ibio.co.th/index.php?route=news/news&news_id=67
http://www.lolikiss.com/index.php/product/item/5-hydrolyzed-fish-collage
 

 
 
ซูคราโลส (Sucralose) คืออะไร
ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานที่ไม่ให้ พลังงาน ซึ่งถูกสร้างจากการใช้น้ำตาลซูโครสเป็นสารตั้งต้น
แล้วแทนที่กลุ่มไฮดรอกซิล 3 ตำแหน่งด้วยอะตอมสารคลอไรด์ ทำให้มีสูตรโครงสร้างคล้ายกับน้ำตาล
แต่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่ยังคงให้รสชาติหวานและไม่มีรสขมติดลิ้นใกล้เคียงน้ำตาล
ซูคราโลสมีลักษณะเป็นผลึกแข็งสีขาวร่วน ละลายน้ำได้ดีและสามารถใช้ปรุงอาหารร้อนบนเตาได้
โดยไม่สูญเสียความหวาน
 
 
ข้อดีของซูคราโลส
1. มีความหวานมากกว่าน้ำตาล 600 เท่า จึงใช้ในปริมาณน้อยกว่าน้ำตาลมาก
    ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาล แต่ไม่มีรสขมติดลิ้น
2. ไม่ให้พลังงานใช้ในอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
3. ไม่ทำให้ฟันผุเหมือนรับประทานน้ำตาล
4. ละลายในน้ำได้ดี ใช้ปรุงอาหารและขนมทุกชนิดที่ต้องใช้ความร้อนสูง และไม่สูญเสียความหวาน
    ไม่เหมือนน้ำตาลเทียมที่ใส่ได้เฉพาะกาแฟ
5. ไม่มีผลต่อระบบนิเวศน์ เป็นสารที่ผลิตจากธรรมชาติ
6. ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดหรือระดับอินซูลิน ใช้ได้ในอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
7. เก็บรักษาได้เช่นเดียวกับน้ำตาล
 
คัดลอกบางส่วนจาก :
- http://elib.fda.moph.go.th/library/default.asp?page2=subdetail&id _L1=27&id_L2=15566&id_L3=506
  ( ศูนย์วิทยบริการ : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา )
- http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1548/sucralose-ซูคราโลส
  ( Food Network Solution : ศูนย์เครือข่ายข้อมูลอาหารครบวงจร )
 

อาการท้องผูก
อาการท้องผูก หมายถึงการถ่ายอุจจาระลำบาก ต้องใช้แรงเบ่งมาก อุจจาระจะแห้งแข็ง มีจำนวนน้อย
(คนเราควรจะถ่ายอุจจาระไม่ต่ำกว่า 100 กรัม ถ้าจะให้ดีประมาณ 200-300 กรัม นานๆ จึงจะถ่ายสักครั้ง
คือถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ บางคนถ่ายวันละ 1-2 ครั้ง บางคนถ่าย 2-3 วันครั้ง
โดยทั่วไปเราถือว่าถ้าถ่ายสัปดาห์หนึ่งน้อยกว่า 3 ครั้ง ถือว่าผิดปกติ
คนที่นานๆจะถ่ายครั้งหนึ่งแสดงว่าอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้นานๆ มักจะแข็ง แห้ง และมีกลิ่นเหม็นเน่า
ถึงแม้ว่าท้องผูกจะไม่ใช่โรคแต่การที่ปล่อยปละละเลย ไม่สนใจจนกระทั้งท้องผูกเรื้อรังไปนานๆ
ก็อาจจะพัฒนากลายเป็นโรคต่างๆได้ มีคนเคยพูดว่าประเทศที่เจริญทางด้านวัตถุ
มักจะคนท้องผูกมากขึ้นตามลำดับ และความเจริญของประเทศนอกจากวัดได้
จากผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศแล้ว ยังสามารถวัดได้จากปริมาณยาระบายที่จำหน่าย เนื่องจากประเทศเหล่านี้อาหารจะโดนดัดแปลง ปรุงแต่ง จนขาดเส้นใยอาหาร เป็นต้น
 
สาเหตุสำคัญ
1.รับประทานอาหารที่มีกาก + เส้นใยน้อย
โดยปกติคนเราควรรับประทานอาหารที่กากหรือเส้นใยประมาณ 20-25 กรัม/วัน
แต่เนื่องจากอาหารในปัจจุบันมักได้รับการปรุงแต่งจนกระทั้งมีเส้นใยน้อยมาก
คนส่วนใหญ่รับประทานข้าวขัดขาว ไม่รับประทานข้าวกล้อง
2. ความเครียด
เนื่องจากในโลกปัจจุบันมีการแก่งแย้งมากขึ้น จากสภาวะแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนไปความเครียดมีมากขึ้น
ทำให้ระบบการกินอยู่ หลับนอนและระบบการขับถ่ายแปรปรวนไปด้วย
3. การกลั้นอุจจาระเป็นอาจิณ
คนเราถ้าจะทำให้สุขภาพดี ควรรับประทานอาหารเป็นเวลา ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะถ่ายตอนเช้า
หลังจากร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนมาระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากชีวิตที่เร่งรีบออกจากบ้านไปทำงาน
ก็มักจะกลั้นอุจจาระเอาไว้ เมื่อทำบ่อยเข้า ความรู้สึกอยากถ่ายก็จะหายไป ท้องผูกก็จะเข้ามาแทนที่
กลไกของการขับถ่ายก็จะเพี้ยนไป
4. ไม่ออกกำลังกาย
ในชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่ มักจะใช้เครื่องผ่อนแรงมากเกินไป
ไปไหนมาไหนนั่งรถยนต์ขึ้นลิฟท์หรือบันไดเลื่อน แม้กระทั้งขับรถก็ยังใช้เกียร์อัตโนมัติ
แล้วไม่ค่อยออกกำลังกาย วันหนึ่งนั่งหน้าจอ Computer
เพราะฉะนั้นระบบเผาผลาญอาหารจึงน้อยลง

ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลงไป ระบบย่อยและขับถ่ายก็พลอยเฉื่อยเนือยไปด้วย
ลำใส้ของเรามีการเคลื่อนไหวตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ใครเดินมากไม่อยู่นิ่งลำใส้ก็จะเคลื่อนตามทำให้ท้องไม่ผูก ตรงข้ามกับคนแก่ที่นั่งๆนอนๆ
ไม่ค่อยจะได้เคลื่อนไหว ลำใส้ก็จะนิ่งไม่ขยับ ส่งผลให้ท้องผูก
5. รับประทานยาระบายเป็นประจำ
ยาระบายแบ่งออกเป็น 2 ชนิด
- ชนิดที่ก่อความระคายเคืองกับลำไส้ใหญ่ ทำให้ขับมูกออกมาหล่อลื่นผนังทวารหนัก ทำให้ก้อนอุจจาระเคลื่อนผ่านไป
- ชนิดที่ก่อให้เกิดการบีบรัดตัวลำใส้ใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนก้อนอุจจาระ

ในระยะแรกของการรับประทานยาระบาย อาจจะได้ผล แต่นานๆไปลำไส้โดนกระตุ้นเป็นประจำ
ทำให้เกิดการชาชิน ดื้อยา ต้องใช้จำนวนมากขึ้นและอาจจะไม่ได้ผล
6. สาเหตุอื่นๆ
- ชา, กาแฟ ทำให้ท้องผูกได้ สาร TANNIN เป็นสำคัญ
- ยาเคลือบกระเพาะ สารประกอบอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์
- รับประทานแคลเซียมมากเกินไป
- ยาแก้ไอ โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของโคดินอยู่
 
คัดลอกข้อมูล และรูปภาพจาก : https://www.thonburihospital.com/constipation.html
โดย : รองศาสตราจารย์นายแพทย์ชูเกียรติ อัศวาณิชย์ "โรงพยาบาลธนบุรี"
 

 
CALL CENTER : 084-467-7810
E-mail : ceo424d@hotmail.com
 
 
 
 
 
| หน้าแรก | ผลิตภัณฑ์ | ข้อมูลวิชาการ | วิธีการสั่งซื้อ - ชำระเงิน | วิธีการรับจ้างผลิตสินค้า | ติดต่อผู้ผลิต | กิจกรรมงานบุญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อผู้แทนจำหน่าย |
 
aaa