aaa
 
หน้าแรก | ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมงานบุญ | ติดต่อกับผู้ผลิต | 
ค้นหาผลิตภัณฑ์  
 
 
 
 
 
ข้าวกล้องเพาะงอกเบญจกระยาทิพย์
ที่มาของกาแฟ
กระดูกอ่อนฉลามและคอลลาเจน
ที่มาของรังนก
INS 401 คืออะไร
คารายากัม คืออะไร
งานวิจัยซุปไก่สกัด
กลูตาไธโอนคืออะไร
ความเป็นมาของกำลังช้างสาร
สรรพคุณของโชวู
Coenzyme Q10 คืออะไร
โสมกับสุขภาพ
ประโยชน์ของตังถั่งเช่า
สรรพคุณของจับเลี้ยง
ความเป็นมาของทุเรียน
ความเป็นมาของเห็ดหลินจือ
ความเป็นมาของเห็ดไมตาเกะ
ความเป็นมาของตังกุย
ประโยชน์ของเห็ดจีซง
ถาม - ตอบ เรื่องเอนไซม์
ประวัติของโรคเบาหวาน
ความเป็นมาของน้ำมันมะพร้าว
ประโยชน์ของเขากวางอ่อน
ประโยชน์ของผลส้มแขก
ประโยชน์ของจันทน์เทศ
ประโยชน์ของชาใบหม่อน
คุณค่าของมะรุม
ความเป็นมาของผลหม่อน
ประโยชน์ของเมล็ดองุ่นแดง
สรรพคุณของดอกคำฝอย
สรรพคุณของไข่มุก
สรรพคุณของโกฐหัวบัว
สรรพคุณของโกฐเขมา
สรรพคุณของอึ้งคี้หรือปักคี้
สรรพคุณของกำลังวัวเถลิง
สรรพคุณของกำลังหนุมาน
สรรพคุณของกระชายดำ
สรรพคุณของแปะก๊วย
ประโยชน์ของม้าน้ำ
ความเป็นมาของผักชีลาว
สรรพคุณของดอกอัญชัน
สรรพคุณของดอกทองพันชั่ง
สรรพคุณของว่านหางจระเข้
สรรพคุณของใบบัวบก
สรรพคุณของนมผึ้ง
สรรพคุณของต้นไหลเผือก
สรรพคุณของพลูคาว
ความเป็นมาขององุ่น
สรรพคุณของมังคุด
สรรพคุณของหัวไชเท้า
คุณสมบัติของต้น Wicth Hazal
 
 
 
 
 
 
เครื่องดื่มชนิดผงพร้อมชง
และเครื่องดื่มชนิดน้ำพร้อมดื่ม
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งชนิดน้ำ
พร้อมดื่ม และชนิดแคปซูล
บรรจุแผง / ขวด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
เครื่องดื่มซุปไก่สกัดผสมสมุนไพร ตรา "BONBACK"
ปริมาตรสุทธิ : 270 มิลลิลิตร ( 45 C.C. x 6 ขวด )
เลข ทะเบียน อย.
 
เครื่องดื่มซุปไก่สกัดผสมสมุนไพร (TaiHow) ตรา "BONBACK"
ผลิตโดย : บจก.ไก่ดำมหากิจ / บอนแบคบิสซิเนส / รังนกบอนแบค
!!! สมุนไพรน่ารู้ !!!
ACTIVE  INGREDIENTS. PROPERTIES
 
 
C โสมคน
  Panax Ginseng (C.A.MEY)
 
 
 
 
C ตังกุย
  Angelica Sinensis (OLIV.)
 
 
 
A เซ็กตี่
   Rehmannia Glutinosa
 
 
 
C โต๋วต๋ง
   Eucommia Ulmoides (OLIV.)
 
 
 
A โกฐหัวบัว
    Coino solinum
    Unvittatum Turcz
 
 
 
B โหงวบี
   Schisandra Chinessis Baill
 
 
 
A ปักคี้
   Astragalus Membranacaus
 
 
 
C ฮกเหลง
   Poria Cocos Wolf
 
 
 
C เน็กกุย
   Cinnamomum Easoia
 
 
 
C ไข่มุก
    Pteria Margaritifera (L.)
 
 
 
A แป๊ะตุ๊ก
  Atractylodes
 
 
 
D ซกต่วง
   Dipsacus
 
 
 
B งู่ฉิก
   Achyranthes Bidentata
   Blume  
 
 
 
 
เป็นยาบำรุงกำลังชั้นดี ช่วยให้สมองแจ่มใส
แก้อาการเหนื่อยอ่อนแรง 
บำรุงกระเพาะอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด  
ลดอาการช็อคจากโรคภูมิแพ้
และยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง
 
 
ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต แก้บวม
ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ 
 
 
 
บำรุงโลหิต  บำรุงไต  บำรุงไขกระดูก 
ป้องกันร้อนใน กระหายน้ำ  ป้องกันการเจ็บฟัน
เหงือกอักเสบ  และป้องกันเลือดกำเดาไหล
 
 
บำรุงตับ ไต ช่วยให้เอ็นและกระดูกแข็งแรง
แก้ปวดหลัง  ช่วยขับปัสสาวะ
 
 
 
ระงับประสาท ลดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง
ขยายหลอดเลือด ช่วยไม่ให้เครียด
ทำให้หลับลึก หลับนาน 
 
 
บำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงประสาท บำรุงปอด 
ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แข็งแรง
 
 
 
บำรุงหัวใจ บำรุงเลือดลม เสริมภูมิต้านทานโรค
แก้อาการหน้าซีด  หอบ อ่อนล้า ไม่มีเรี่ยวแรง 
และช่วยบำรุงกระเพาะปัสสาวะ 
 
 
บำรุงร่างกาย ระงับประสาท ขับปัสสาวะ
และเสริมสมรรถภาพทางเพศ
 
 
 
บำรุงหัวใจ ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิต
ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง
 
 
 
รักษาแผล ลดรอยแผลเป็น
ป้องกันผิวหนังเหี่ยวย่น   
ช่วยให้ผิวขาวใสนุ่มเนียน
และเสริมสมรรถภาพของสายตา
 
บำรุงกระเพาะอาหาร ช่วยระบบการย่อยอาหาร
ท้องไม่อืดเฟ้อ และช่วยขับปัสสาวะ
 
 
 
 
ช่วยระบบการไหลเวียนโลหิต บำรุงเส้นเอ็น
ช่วยกระจายเลือดคั่ง  ทำให้กระฉับกระเฉง 
มีกำลังไม่อ่อนเพลีย
 
 
บำรุงตับ ไต กระดูกและเส้นเอ็น
ช่วยกระจายเลือดคั่ง 
ลดอาการปวดบวม อาการฟกช้ำ 
 
 
เอกสารอ้างอิง
A คัดลอกจาก หนังสือ 100 ยาจีน บำรุงสุขภาพ แปลโดย อดุลย์ รัตนมั่นเกษม
B คัดลอกจาก หนังสือ 100 ยาจีน อายุวัฒนะ แปลโดย อดุลย์ รัตนมั่นเกษม
C คัดลอกจาก หนังสือยาจีน (คู่มือสมุนไพรและตำรายาบำรุงของจีน)
   แปลโดย วีระชัย มาศฉมาดล และทัศนีย์ เมฆอริยะ
D คัดลอกจาก จงกว๋อ เฮี้ยว วู้ ด้า เซวียน
  (หนังสือซึ่งรวบรวมสาระสำคัญในตัวยาสมุนไพรจีนแผนโบราณ ไว้ทั้งหมด)
   รวบรวมโดย สมาคมแพทย์แผนโบราณในประเทศจีน
E คัดลอกจาก หนังสือ เซวียน กว๋อ จง เฉ้า ห้วย เพี่ยน ปี ค.ศ. 1975 - 1988
 

 
ทำความรู้จักไก่ดำกันก่อน
ไก่ดำพันธุ์ดั้งเดิมมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบเหนือของมองโกลเลีย ประเทศจีน มีรูปร่างสวยงามและแข็งแรง
ไก่ดำต้องมีขนดำ หนังดำ เนื้อดำ กระดูกดำ เครื่องในดำ ในสมัยของราชวงศ์ถัง แพทย์หลวงรู้จักนำเอา
ไก่ดำผสมเข้ากับเครื่องยาจีนตามกรรมวิธีแผนโบราณ เพื่อเป็นอาหารถวายฮ่องเต้ ซึ่งตามประวัติศาสตร์
จีนไก่ดำจะถือเป็นสัตว์สงวนและเป็นของต้องห้ามสำหรับสามัญชนทั่วไป ไม่ให้นำออกนอกประเทศ
และหากผู้ใดพบเห็นก็ต้องนำทูลถวายฮ่องเต้เท่านั้น ไก่ดำจึงเป็นที่สงวนและทรงโปรดของฮ่องเต้ทุกสมัย
เสวยบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้เป็นอย่างดี แม้พระซูสีไทเฮาก็โปรดในการเสวยไก่ดำเป็นประจำจน
มีผิวพรรณสวยงาม แข็งแรง สรรพคุณของไก่ดำในตำรายาของขุนนางจีนกล่าวว่า
ไก่ดำมีคุณค่าทางอาหารและยา เพิ่มพละกำลังมหาศาล บำรุงสมอง บำรุงร่างกาย ต้านทานโรคต่างๆ
ช่วยให้เลือดที่สูญเสียกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว บำรุงอวัยวะที่หมดสภาพให้กลับฟื้นคืนเป็นปกติ
 
ไก่ดำมีแร่ธาตุพิเศษกว่าไก่ทั่วไป มีแร่ธาตุเมนนิน, แอนโดเจน และอะมิโนแอซิด (MEIANIN, ANDROGEN
and AMINO ACID)
และมีแร่ธาตุที่สำคัญที่ร่างกายต้องการอีกร่วม 20 ชนิด โดยเฉพาะ 8 ชนิด
ร่างกายไม่สามารถหาได้จากอาหารทั่วไป และที่สำคัญก็คือไข่และเนื้อของไก่ดำมีปริมาณไขมันหรือ
โคเลสเตอรอลต่ำเมื่อเทียบกับสัตว์อื่นๆ
 
>> ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
 

 
เมลานิน/melanin
 
เมลานิน (อังกฤษ: Melanin) หรือเม็ดสีสร้างจากเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ (melanocyte)
เป็นเซลล์ที่เจริญมาจากเซลล์ระบบประสาทซึ่งแทรกตัวอยู่ในชั้นหนังกำพร้าส่วนล่างสุด
โดยเซลล์เมลาโนไซต์หนึ่งเซลล์จะแตกแขนงเป็นร่างแหเล็กๆ ยื่นไปสัมผัสเซลล์ผิวหนังประมาณ 35 เซลล์
 
เมลาโนไซต์จะสร้างสารเมลานินบรรจุในแคปซูลเรียกว่าเมลาโนโซม เมื่อสร้างเสร็จจะส่งไปตามร่างแห
เข้าสู่เซลล์ผิวหนัง สารเมลานินสามารถแบ่งออกเป็น 1 ชนิด
 
- ยูเมลานิน (Eumelanin) เป็นเซลล์เม็ดสีเข้ม เพราะมีเมลานินบรรจุอยู่ในแคปซูลมาก
  ฉะนั้นคนผิวขาว ผมแดง จึงมีฟีโอเมลานินมาก ส่วนคนผิวเข้ม ผมดำ จึงมียูเมลานินมาก ยังมีปัจจัยอื่นๆ
ที่ทำให้คนผิวดำแตกต่างจากคนผิวขาว ผิวเหลือง คือคนผิวเข้มจะมีการสร้างเมลาโนโซมขนาดใหญ่กว่า
มีจำนวนมากกว่า จึงทำให้สร้างเมลานินได้มากกว่า รวมถึงเมลาโนโซมถูกทำลายช้ากว่าคนผิวขาวด้วย
  แต่สีผิวของคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับเมลานินเพียงอย่างเดียว ยังขึ้นอยู่กับเส้นเลือดและสารบางชนิด
เช่น [บีตา-แคโรทีน]ที่ทำให้ผิวเหลือง นอกจากนี้ผิวหนังทั่วร่างกายของเราก็ยังมีการกระจายตัว
ของเม็ดสีไม่สม่ำเสมอ อาทิ พบเซลล์เม็ดสีมากบริเวณหน้า หัวนม อวัยวะเพศ
 
หน้าที่ของเมลานิน
เมลานินมีกลไกออกฤทธิ์ป้องกันแสงหลายประการ ได้แก่
- ทำหน้าที่เหมือนแผ่นกรองแสง
- ช่วยกระจายแสง เช่น แสงที่มีความยาวคลื่นสั้นอย่างแสงสีม่วงฟ้าที่เมื่อกระทบผิวหนังจะถูกหักเหออกไป
- ดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลตและแสงที่เห็นด้วยตาเปล่า แล้วกระจายออกเป็นความร้อน
- ทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระ
 
สาเหตุความผิดปกติ
สาเหตุของความผิดปกติของเม็ดสีมีหลายปัจจัย เช่น
- โรคจากพันธุกรรม
- การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน
- การโดนแสงแดดจัด
- การกินยาคุมกำเนิดที่มีเอสโทรเจนปริมาณสูงและยาประเภทฮอร์โมนอื่นๆ
- โรคผิวหนังบางชนิด เช่น กลาก เกลื้อน โรคด่างขาว ไฝและขี้แมลงวัน กระ ฝ้า
- การได้รับสารเคมี
- การขาดวิตามิน
 
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดด้วยเสื้อผ้า หรือครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป
- ผ่อนคลายความเครียดและความกังวลใจ
- ใช้สมุนไพร
   - วุ้นว่านหางจระเข้สดถูที่ผิว ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออก ก่อนนำมาใช้ต้องล้างน้ำยางสีเหลืองออกให้หมด
   - น้ำมะเฟืองคั้นสดทาบริเวณฝ้า ทิ้งให้แห้งแล้วล้างออก เพราะในมะเฟืองมีความเป็นกรดสูง
     เวลาใช้ต้องผสมน้ำให้เจือจาง แล้วทดสอบกับผิวบริเวณอื่นก่อนนำมาทาหน้า
 
อ้างอิงจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550
คัดลอกข้อมูล : https://th.wikipedia.org/wiki/เมลานิน
 

 
“ท้องอืด” อย่าปล่อยทิ้งไว้
แม้ท้องอืดจะเป็นเพียงอาการ ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ท้องอืดก็อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคร้ายแรงได้
เช่น หากเกิดอาการท้องอืดนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ รับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น
รวมถึงน้ำหนักลด ซีด เบื่ออาหาร ตัวเหลือง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง
ดังนั้นถ้าท้องอืดอย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด
 
อาการท้องอืด
อาการท้องอืด คือ ความรู้สึกว่ามีลมในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้ ทำให้อึดอัดไม่สบายตัว อาจมีอาการปวดท้องคลื่นไส้
หรืออยากอาหารน้อยลง ซึ่งโดยปกติแล้วการมีลมหรือแก๊สในกระเพาะอาหารนั้นอาจเกิดจากการกินอาหาร
ทั้งลักษณะอาหาร และชนิดของอาหาร การสูบบุหรี่ การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ หรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางกลุ่ม
เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาคลายเครียด ซึ่งมีผลในการกดระบบประสาทและทำให้การบีบตัวของลำไส้ลดลง
ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน
 
สำหรับบางรายที่มีอาการท้องอืดมากหรือนาน อาจเนื่องมาจากโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร
เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ กระเพาะเป็นแผล มะเร็งทางเดินอาหารหรือลำไส้ มีการติดเชื้อพวกพยาธิ
โรคลำไส้แปรปรวน หรือเป็นการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้เอง รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับระบบอื่นๆ
เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืดร่วมด้วย ซึ่งต้องมีการตรวจเพิ่มเติม
 
ท้องอืด-ท้องเฟ้อ ต่างหรือเหมือนกัน
ท้องอืด-ท้องเฟ้อ เป็นคำรวมๆ ใช้เรียกอาการในกลุ่มลักษณะนี้ คือ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากจนรู้สึกอึดอัด
แน่นท้อง ท้องอาจโตขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร บางครั้งมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย หรืออาจมีผายลมมากกว่าปกติ
บางครั้งได้เรอหรือผายลมแล้วรู้สึกดีขึ้น
 
การรักษา
หากมีอาการดังที่กล่าวมา โดยไม่พบสัญญาณเตือน สามารถเลือกรับประทานยาขับลม
หรือช่วยย่อย และปรับพฤติกรรมการกิน แต่ถ้าเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ อาการไม่ดีขึ้นหลังรับประทานยา
ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจสืบค้นสาเหตุของอาการโดยละเอียด
 
การดูแลตัวเองเบื้องต้น
-หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ย่อยยาก
-ไม่รับประทานอาหารครั้งละมากเกินไป
-เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
-การทำงานแบบนั่งโต๊ะโดยไม่มีการออกกำลังกาย เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้บ่อยขึ้น
 ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายสม่ำเสมอต่อเนื่อง
 
หากเกิดอาการ ท้องอืดอย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะแม้ท้องอืดจะเป็นเพียงอาการ ไม่ใช่โรคร้ายแรง
แต่ท้องอืดก็อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคร้ายแรง หรือพัฒนาไปสู่โรคอื่นๆ ได้
 
คัดลอกข้อมูลบางส่วนและรูปภาพ : https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ท้องอืดอย่าปล่อยไว้
เขียนโดย : พญ. เบญจรัตน์ พร้อมจรรยากุล "โรงพยาบาลสมิติเวช"
 

 
CALL CENTER : 084-467-7810
E-mail : ceo424d@hotmail.com
 
กาแฟคอลลาเจน , กาแฟลดน้ำหนัก , บอนแบค , bonboack
บริษัท ไก่ดำมหากิจ นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 10540
 
 
| หน้าแรก | ผลิตภัณฑ์ | ข้อมูลวิชาการ | วิธีการสั่งซื้อ - ชำระเงิน | วิธีการรับจ้างผลิตสินค้า | ติดต่อผู้ผลิต | กิจกรรมงานบุญ | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อผู้แทนจำหน่าย |
 
aaa